นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาเปิดเผยว่า จำนวนเด็กชาวแคนาดาที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังไม่มาก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะสร้างความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขในช่วงเวลาที่ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด
เมื่อนับจนถึงวันที่ 1 ม.ค. ชาวแคนาดาอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วอยู่ที่ 87.6% แต่ในกลุ่มเด็กอายุ 5-12 ปีที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมีอยู่เพียง 2% และฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสมีเพียง 45.6%
นายทรูโดแถลงต่อสื่อมวลชนว่า “เกือบครึ่งของจำนวนเด็กทั่วประเทศได้รับวัคซีนแล้ว แต่เราจำเป็นต้องฉีดเพิ่ม ดังนั้น โปรดถามผู้ปกครองของคุณว่าคุณจะสามารถฉีดวัคซีนได้ไหม”
ขณะเดียวกัน โรงเรียนในรัฐออนแทรีโอและควิเบก ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 61% ของประชากรทั้งหมด 38.4 ล้านคนของแคนาดานั้น ได้จัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ แต่เด็ก ๆ จะกลับเข้าโรงเรียนในวันที่ 17 ม.ค.
ด้านนายสตีเฟน เลกเซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของรัฐออนแทรีโอกล่าวว่า “ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถทำได้และเราจะทำมากกว่านี้” พร้อมประกาศว่า รัฐออนแทริโอจะจัดตั้งคลินิกฉีดวัคซีนพิเศษในโรงเรียนเพื่อเพิ่มจำนวนเด็กที่ฉีดวัคซีน และจะแจกจ่ายชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วนเมื่อนักเรียนแสดงสัญญาณของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, จัสติน ทรูโด, ฉีดวัคซีนโควิด, สตีเฟน เลกเซ, เด็ก, แคนาดา, โควิด-19, โอมิครอน