ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะมีผลกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
ในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในข้อตกลงการเลื่อนเก็บภาษีสินค้านำเข้าดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ปธน.ทรัมป์มีกำหนดจะบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
รถยนต์และชิ้นส่วนที่เป็นไปตามข้อกำหนดของข้อตกลง USMCA นั้น เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากภาษีศุลกากรในครั้งนี้ ส่วนโปแตช (potash) จากแคนาดาซึ่งมีการใช้อย่างมากในปุ๋ยสำหรับผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯ นั้น ถูกเรียกภาษีที่ต่ำกว่า คือในอัตรา 10%
ทำเนียบขาวประมาณการว่า 62% ของสินค้านำเข้าจากแคนาดาจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์พลังงานที่ถูกเก็บภาษีในอัตรา 10% และครึ่งหนึ่งของสินค้ามาจากเม็กซิโก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าสัดส่วนเหล่านั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากกลุ่มผู้นำเข้าเร่งปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่
ปธน.ทรัมป์เตือนว่า การผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้าสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยกล่าวว่าเขาจะไม่ลงนามขยายเวลาการเก็บภาษีอีกในเดือนหน้า
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้ตัดสินใจเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า เม็กซิโกเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งโดยสารรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐฯ ในปี 2567 รองลงมาคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และเยอรมนี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)
Tags: ภาษีนำเข้าสินค้า, เม็กซิโก, แคนาดา, โดนัลด์ ทรัมป์