นักลงทุนจากต่างชาติเทขายสุทธิพันธบัตรเอเชียเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ความต้องการลงทุนในพันธบัตรเอเชียลดลง
นักลงทุนเทขายสุทธิพันธบัตรมูลค่า 1.91 พันล้านดอลลาร์จากอินโดนีเซีย อินเดีย ไทย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ แม้ว่าการเทขายพันธบัตรดังกล่าวต่ำกว่าระดับของเดือนมี.ค.ที่ 4.69 พันล้านดอลลาร์อย่างมากก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงถึง 106.51 เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง และปิดท้ายเดือนด้วยการเพิ่มขึ้น 1.76% ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน
นักลงทุนต่างชาติได้ถอนเงินลงทุนประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์ออกจากตลาดพันธบัตรอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นเดือน 3 ที่เงินทุนไหลออกติดต่อกัน ในขณะที่ค่าเงินรูเปียอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้ธนาคารอินโดนีเซียสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน พันธบัตรอินเดียก็เผชิญกับการเปลี่ยนแปลง โดยนักลงทุนต่างชาติถอนเงินลงทุน 1.31 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้แรงซื้อหยุดชะงักหลังดำเนินมานานนับปี
ในไทยนั้น พันธบัตรรัฐบาลเผชิญกับเงินทุนไหลออกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวมมูลค่า 881 ล้านดอลลาร์
ในทางกลับกัน พันธบัตรของเกาหลีใต้และมาเลเซียดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ 1.86 พันล้านดอลลาร์ และ 122 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเดือนนี้ หลังจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐและข้อมูล CPI เดือนเม.ย.ที่ต่ำกว่าคาด ได้บรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 67)
Tags: นักลงทุน, นักลงทุนต่างชาติ, พันธบัตร, พันธบัตรเอเชีย