ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบ โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในยุโรปขณะนี้ รวมถึงไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และเริ่มแพร่กระจายไปในภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสร้างความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,746.49 จุด ลดลง 5.13 จุด หรือ -0.02% และ
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,956.43 จุด ลดลง 124.09 จุด หรือ -0.52%
รายงานระบุว่า หลายประเทศได้ออกมาตรการระงับเที่ยวบินจากประเทศในกลุ่มเสี่ยง โดยฟิลิปปินส์ได้สั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจาก 7 ประเทศในยุโรปเดินทางเข้าประเทศ โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-15 ธ.ค. เพื่อป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) โดยประเทศที่ถูกขึ้น “บัญชีแดง” ได้แก่ ออสเตรีย, สาธารณรัฐเชก, ฮังการี, เนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม และอิตาลี
ส่วนฟิลิปปินส์ได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางไปแล้วทั้งสิ้น 14 ประเทศและภูมิภาคที่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่อินโดนีเซียได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยัง 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาในช่วงเวลา 14 วันเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ทางด้านญี่ปุ่นกำลังพิจารณายกระดับการควบคุมบริเวณพรมแดนให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่ระดับ 1.1% และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 1.1% เนื่องจากมีการทบทวนปรับค่าตามฤดูกาล
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แม้จะน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการบริโภคภาคเอกชนยังไม่อาจปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง แม้มีการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย