ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (25 เม.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,527.39 จุด เพิ่มขึ้น 488.24 จุด หรือ +1.39% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,206.82 จุด เพิ่มขึ้น 297.06 จุด หรือ +1.36% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,302.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 หรือ +0.15%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.15% ส่วนตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันนี้เนื่องในวันทหารผ่านศึก
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า บริษัทเอกชนอาจเริ่มปลดพนักงานมากขึ้นหากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาใช้มาตรการภาษีศุลกากรเชิงรุกอีกครั้ง และเขาจะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากพบว่าอัตราว่างงานพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปธน.ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับหลายประเทศเมื่อวันที่ 2 เม.ย. แต่หลังจากนั้นได้ระงับแผนดังกล่าวไว้เป็นเวลา 90 วันเพื่อให้มีการเจรจาต่อรอง
ทางด้านเบท แฮมแมก ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. แต่กล่าวว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย. หากมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ แฮมแมกกล่าวว่า เฟดจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง โดยที่ผ่านมานั้น กรรมการเฟดต่างพิจารณามุมมองต่าง ๆ อย่างเปิดกว้าง ทั้งในแง่ที่ว่าเฟดควรจะใช้แนวทางอดทนรอคอย หรือควรจะดำเนินการในทันที โดยหากเฟดมีข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือภายในเดือนมิ.ย. ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 68)
Tags: ตลาดหุ้นเอเชีย