ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังถูกกดดันจากการที่ปธน.ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 34,300.35 จุด ลดลง 429.93 จุด หรือ -1.24% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,286.44 จุด เพิ่มขึ้น 9.71 จุด หรือ +0.30%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.16% ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงและออสเตรเลียปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์
ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้พาวเวลเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขู่ว่าจะปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งหากไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจที่พาวเวลกล่าวว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
ออสติน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก แสดงความเห็นในเรื่องนี้ผ่านทางรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) เมื่อวันอาทิตย์ (20 เม.ย.) ว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯ จะไม่ก้าวเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ความสามารถของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายการเงินอย่างเป็นอิสระโดยปราศจากแรงกดดันทางการเมืองนั้น จะถูกตั้งคำถาม
ด้านเอริก ลอมบาร์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ออกโรงเตือนว่า ความน่าเชื่อถือของสกุลเงินดอลลาร์จะตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ หากปธน.ทรัมป์ปลดพาวเวลออกจากตำแหน่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย