ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (10 ม.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4% ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปีในการซื้อขายวันก่อนหน้า ขณะที่เงินเฟ้อของออสเตรเลียแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,122.67 จุด ลดลง 67.35 จุด หรือ -0.42%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,858.63 จุด พุ่งขึ้น 481.21 จุด หรือ +1.44% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,887.18 จุด ลดลง 6.07 จุด หรือ -0.21%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.28%.
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.56% หลังอัตราว่างงานของเกาหลีใต้แตะระดับสูงสุดในรอบ 23 เดือน ส่วนดัชนี Kosdaq ร่วงลง 1.03%
ผลสำรวจนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ถ่วงน้ำหนักของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักดัชนี CPI ในเมืองเอก 8 แห่งของออสเตรเลีย อาจเพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) รวมทั้งข้อมูลการค้าของจีนในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของจีน
นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.ปีนี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนัก 79%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย