ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (28 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อเดือนต.ค.ของออสเตรเลียและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย.ของจีน
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,419.42 จุด ลดลง 105.64 จุด หรือ -0.60%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,370.40 จุด ลดลง 77.27 จุด หรือ -0.23% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,034.80 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.61% ก่อนออสเตรเลียเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.)
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 0.35% ส่วนดัชนี Kosdaq บวก 0.49%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนจับตาทางการจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจะหดตัวลงอีกในเดือนพ.ย.
ราคาน้ำมันลดลงเช้านี้ หลังกาตาร์ระบุว่า อิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสตัดสินใจขยายข้อตกลงพักรบออกไปอีก 2 วัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาล่วงหน้าส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.62% แตะที่ 80.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) สัญญาล่วงหน้าของสหรัฐพลิกจากลบในช่วงแรก โดยบวกขึ้น 0.4% แตะที่ 75.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย