ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ โดยถูกกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,618.27 จุด ลดลง 203.16 จุด หรือ -0.73%
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,837.48 จุด ลดลง 159.37 จุด หรือ -0.72%
- ส่วนดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,272.40 จุด เพิ่มขึ้น 20.20 จุด หรือ +0.62%
ตลาดหุ้นในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งการที่ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซียกรณีใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลให้รัสเซียใช้มาตรการตอบโต้ โดยล่าสุดปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ลงนามในกฤษฎีกาซึ่งระบุว่า ต่างชาติที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะต้องชำระเงินเป็นสกุลรูเบิลเท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. และสัญญาการซื้อก๊าซจะถูกระงับ หากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2526
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นฮ่องกงยังได้ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 33 แห่งในวันนี้ หลังจากไม่สามารถเปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำปีได้ตามกำหนด โดยบริษัทที่ถูกระงับการซื้อขายรวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน เช่น ซูแนค ไชน่า โฮลดิ้งส์ และชิเหมา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่รายงานเช้านี้ มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมี.ค.ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากโรคโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักในจีน นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจจีนถูกกระทบจากสงครามยูเครนยังส่งผลให้การผลิตและอุปสงค์ชะลอตัวลงอย่างมาก
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนลดลงสู่ระดับ 48.1 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI เดือนมี.ค.หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย