ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไป หลังซึมซับรายงานข่าวที่ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,107.98 จุด เพิ่มขึ้น 89.65 จุด หรือ +0.31% และ
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,728.14 จุด เพิ่มขึ้น 169.55 จุด หรือ +0.59%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับปัจจัยบวกหลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับภาวะอ่อนแอของราคาผู้บริโภค
ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 และสะท้อนให้เห็นถึงการดีดตัวขึ้นของราคาไฟฟ้าและน้ำมันเบนซิน หลังจากราคาสินค้าทั้งสองประเภทร่วงลงอย่างหนักในปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0%
ในการประชุมครั้งนี้ BOJ ยังได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาของโครงการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับภาคธุรกิจออกไปอีก 6 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า เนื่องจากโรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย