ตลาดหุ้นอินเดียเริ่มต้นปี 2567 ด้วยการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากมุมมองบวกที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง แต่ในขณะที่อินเดียเริ่มจัดการเลือกตั้งที่ต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์นั้น บริษัทหลักทรัพย์แบร์สเติร์น (Bernstein) เตือนว่า ตลาดหุ้นอินเดียอาจจะเผชิญกับการปรับฐานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
บรรดานักลงทุนในตลาดได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า พรรคภารตียชนตา (BJP) ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยนักลงทุนมองว่านายโมดีซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียนับตั้งแต่ปี 2557 นั้น เป็นผู้สมัครที่เป็นมิตรต่อตลาด
ในช่วงเวลาที่นายโมดีดำรงตำแหน่งผู้นำนั้น อินเดียได้กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วย GDP ที่มีมูลค่าสูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ และขณะนี้อินเดียตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี 2570
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนี Nifty 50 ของตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้น 3% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังจากทะยานขึ้นกว่า 20% ในปี 2566 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 8 ปี
อย่างไรก็ดี ดัชนี Nifty 50 ได้ร่วงลงราว 1.7% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 11 เม.ย.ปีนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นทั่วโลก
เวนูโกพอล การ์เร และนิกี เอเรลา นักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นระบุในรายงานว่า “ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นอินเดียเป็นไปอย่างคึกคักในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลของนายโมดีจะสามารถครองเสียงในสภาได้มากกว่า 400 ที่นั่ง”
ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2567 ของอินเดียได้เปิดฉากขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.) โดยประชาชนต่างก็เดินทางไปยังคูหาเพื่อตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้นายโมดีดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3 หรือไม่
ชาวอินเดียที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบ 1 พันล้านคนจะตัดสินใจในการเลือกผู้แทนเข้ามานั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 543 ที่นั่ง โดยหากพรรคการเมืองหรือพรรคร่วมรัฐบาลได้คะแนนโหวตอย่างน้อย 272 ที่นั่ง ก็จะได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล
“ตลาดหุ้นอินเดียอาจจะเผชิญกับการปรับฐานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากตลาดตั้งความหวังไว้สูงมากสำหรับพรรค BJP และพรรคร่วมรัฐบาลของนายโมดี” นักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นส์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้นอินเดีย, นเรนทรา โมดี