ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ โดยนักลงทุนประเมินผลกระทบจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่จะมีต่อทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยข้อมูลการจ้างงานบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงตึงตัว เนื่องจากค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอัตราการว่างงานลดลง แม้การจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ค.ก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญจากทั่วโลกในสัปดาห์นี้
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 459.25 จุด ลดลง 0.03 จุด หรือ -0.01%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,877.54 จุด ลดลง 74.32 จุด หรือ -0.47% และ
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,290.37 จุด ลดลง 24.7 จุด หรือ -0.34%
หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ปรับตัวไร้ทิศทาง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขยับขึ้น 0.5% ในขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง 0.5%
หุ้นซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ (Siemens Energy) กลุ่มบริษัทพลังงานของเยอรมนี ร่วงลง 5.8% สู่ระดับต่ำสุดบนกระดาน STOXX 600 หลังจากบริษัทกล่าวว่า ปัญหาในธุรกิจกังหันลมจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงถึง 2.2 พันล้านยูโร (2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้นดอยซ์ เบิร์ซ (Deutsche Boerse) บริษัทตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนี ร่วงลง 1.6% หลังจากที่ธนาคารยูบีเอส (UBS) ปรับลดอันดับความน่าลงทุนจากระดับ “ซื้อเก็งกำไร” (buy) สู่ระดับ “คงสัดส่วนการลงทุน” (neutral)
ส่วนหุ้นโอเอชบี (OHB) บริษัทด้านการอวกาศของเยอรมนี พุ่งขึ้น 33% หลังจากประกาศว่า เคเคอาร์ (KKR) บริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐได้ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์สำหรับหุ้นโอเอชบีที่อยู่ในมือผู้ถือหุ้น (outstanding stock)
หุ้นโพสต์เอ็นแอล (PostNL) บริษัทไปรษณีย์รายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากที่บริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2566
ทั้งนี้ ท่ามกลางการคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใกล้สิ้นสุดวงจรการคุมเข้มทางการเงินนั้น นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อจากเยอรมนี จีน และสหรัฐ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป