ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร (18 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ขณะที่นักลงทุนคาดว่า มีแนวโน้มที่การใช้จ่ายด้านการทหารอาจเพิ่มขึ้นในยุโรปขณะที่มีการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 557.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด หรือ +0.32%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,206.56 จุด เพิ่มขึ้น 17.43 จุด หรือ +0.21%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,844.50 จุด เพิ่มขึ้น 46.41 จุด หรือ +0.20% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,766.73 จุด ลดลง 1.28 จุด หรือ -0.01%
สหรัฐฯ และรัสเซียตกลงที่จะเดินหน้าหาทางยุติสงครามในยูเครน หลังจากจัดการเจรจาที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งไม่มีตัวแทนจากยูเครนเข้าร่วม
จากสถานการณ์ดังกล่าว ผู้นำยุโรปแสดงความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจลดบทบาทในการเป็นผู้นำด้านกลาโหมของยุโรป ส่งผลให้ยุโรปจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม ซึ่งอาจนำไปสู่การกู้ยืมเงินของรัฐบาลมากขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยูโรโซนปรับตัวขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.9% และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด ในทางตรงกันข้าม หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับพันธบัตร ปรับตัวลง 0.5%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมกลาโหมเพิ่มขึ้น 0.8% โดยหุ้น Leonardo พุ่งขึ้น 2.1%, หุ้น Saab AB ของสวีเดน เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้น Thales ของฝรั่งเศส บวก 2.3%
หุ้น Thyssenkrupp ของเยอรมนี ซึ่งกำลังเตรียมแยกธุรกิจต่อเรือออกจากบริษัทหลัก ทะยานขึ้น 7% หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 20% เมื่อวันจันทร์
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมกลาโหมปรับขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน โดยในวันจันทร์พุ่งขึ้น 4.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนก.พ. 2565
นักวิเคราะห์จาก ING Economics ระบุว่า “การที่สหรัฐฯ เดินหน้าพูดคุยกับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงในยูเครน ทำให้ผู้นำยุโรปตระหนักถึงความจำเป็นในการเร่งเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม”
“แนวโน้มการกู้ยืมร่วมกันของสหภาพยุโรปเพื่อใช้จ่ายด้านกลาโหม กำลังได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้น”
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อฝรั่งเศสในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีในเดือนก.พ.ปรับตัวดีเกินคาด
หุ้นธนาคาร HSBC เพิ่มขึ้น 1.9% หลังจากประกาศเลิกจ้างพนักงานฝ่ายวาณิชธนกิจราว 40 คนในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างธุรกิจทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนของธนาคารที่มุ่งเน้นตลาดเอเชีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป