ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลง และนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้านี้จากความหวังที่ว่าอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดแล้ว และธนาคารกลางต่าง ๆ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในที่สุด
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 451.27 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือ -0.72%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,168.40 จุด ลดลง 41.21 จุด หรือ -0.57%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,786.61 จุด เพิ่มขึ้น 38.44 จุด หรือ +0.24% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,410.97 จุด ลดลง 75.94 จุด หรือ -1.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังจากพุ่งขึ้น 2.5% ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันศุกร์นี้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.7% ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลงหลังจากมีสัญญาณว่าปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และคาดว่าอุปสงค์พลังงานจากจีนลดลง
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในตลาดบ้านของจีนซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราซึ่งพึ่งพาตลาดจีน ร่วง 1.5% โดยหุ้นเคอริ่ง, แอลวีเอ็มเอช และริชมอนด์ ร่วง 1.8-2.7% และหุ้นเบอร์เบอรี ร่วง 11.1% หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะเผชิญความยากลำบากในการบรรลุตัวเลขคาดการณ์รายได้ทั้งปี เนื่องจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าหรูหราชะลอตัวลง
หุ้นเฮลโลเฟรช ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารเป็นชุดของเยอรมนี ร่วง 22.4% หลังปรับลดแนวโน้มผลกำไรประจำปี และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของรายได้
แต่หุ้นเอ็มเบรเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมของสวีเดน พุ่ง 3.2% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 มากกว่าคาด และหุ้นซีเมนส์ของเยอรมนี พุ่ง 5.7% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 4 สูงกว่าคาด
ตลาดหุ้นสเปนปิดบวก หลังรัฐสภาของสเปนลงมติให้นายเปโดร ซานเชซ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ซึ่งยุติภาวะชะงักงันทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน หลังผลการเลือกตั้งทั่วไปไม่ชัดเจนในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป