ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันจันทร์ (11 เม.ย.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และตลาดปรับตัวผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เนื่องจากคะแนนนิยมในการเลือกตั้งรอบแรกเป็นไปอย่างสูสีกันระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และนางมารีน เลอเปน
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 458.26 จุด ลดลง 2.71 จุด หรือ -0.59%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,555.81 จุด เพิ่มขึ้น 7.59 จุด หรือ +0.12%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,192.78 จุด ลดลง 90.89 จุด หรือ -0.64% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,618.31 จุด ลดลง 51.25 จุด หรือ -0.67%
ตลาดปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งร่วงลง 2.2% โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น
แต่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกบ่งชี้ว่าปธน.มาครงมีคะแนนนำนางเลอเปน ขณะที่ผลสำรวจของ Ifog บ่งชี้ว่า ปธน.มาครงมีคะแนนนำ 51% ขณะที่นางเลอเปนมีคะแนน 49% โดยการเลือกตั้งรอบสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 1.6% แล้วในเดือนเม.ย. เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่นางเลอเปนจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยตลาดกังวลเกี่ยวกับนโยบายของเธอเกี่ยวกับการปกป้องด้านการค้า, การปรับลดภาษี และการโอนกิจการของเอกชนมาเป็นของรัฐ
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนโดยรวมปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและก่อนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
ตลาดปรับตัวรับโอกาสที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.70% ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับ 0.65% ที่คาดไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
สำหรับหุ้นรายตัวที่ร่วงลง รวมถึงหุ้นโนเกียน ไทร์ส ผู้ผลิตยางรถยนต์ของฟินแลนด์ ซึ่งร่วงลง 15.5% หลังเปิดเผยว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่สหภาพยุโรปกำหนดต่อรัสเซียนั้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตของบริษัท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป