ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 546.31 จุด ลดลง 2.42 จุด หรือ -0.44%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,990.11 จุด ลดลง 40.57 จุด หรือ -0.51%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,678.74 จุด ลดลง 160.29 จุด หรือ -0.70% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,666.12 จุด ลดลง 23.47 จุด หรือ -0.27%
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงมากถึง 1.1% ในระหว่างวัน ขณะที่ดัชนี DAX ของเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ร่วงลง 0.7%
ดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์ ร่วงลง 1% และลบช่วงบวกทั้งหมดที่ทำไว้ตั้งแต่ต้นปีนี้
หุ้นโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป ร่วง 1.5% ขณะที่หุ้นสเตลแลนทิส (Stellantis) บริษัทแม่ของไครสเลอร์ ร่วงลง 4.2%, หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ร่วง 2.5% และหุ้นปอร์เช่ (Porsche) ร่วง 2.6%
ด้านหุ้นวาลีโอ (Valeo) บริษัทซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนรถยนต์ของฝรั่งเศส ร่วงลง 7.8% โดยบริษัทระบุว่าจะไม่สามารถแบกรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นได้ และจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้า
มาตรการเก็บภาษีรถยนต์ครั้งใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ อาจทำให้ต้นทุนของรถยนต์ที่ขายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นหลายพันดอลลาร์ เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเชื่อมโยงกันทั่วอเมริกาเหนือ
การประกาศดังกล่าวยิ่งเพิ่มความกังวลของนักลงทุน ขณะที่ตลาดยังเตรียมรับมือกับมาตรการภาษีตอบโต้จากทรัมป์กับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.ด้วย
สถานการณ์ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก โดย สหรัฐฯ ได้แจ้งต่อสหภาพยุโรป (EU) ว่า ไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนที่มาตรการภาษีเพิ่มเติมจะถูกนำมาใช้ในสัปดาห์หน้า
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วงลงหนักสุด 1.8% ตามการลดลงของราคาทองแดง ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.1% สวนทางตลาด หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโซนยูโรระยะสั้นลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 2 ปี ลดลงประมาณ 0.05% สู่ระดับ 2.069% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป