ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (26 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ เนื่องจากการขู่เก็บภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ จากบรรดาประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการเกิดสงครามการค้าโลกขึ้นอีกครั้ง
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 505.90 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ -0.57%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,194.51 จุด ลดลง 62.96 จุด หรือ -0.87%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,295.98 จุด ลดลง 109.22 จุด หรือ -0.56% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,258.61 จุด ลดลง 33.07 จุด หรือ -0.40%
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2568 วางแผนที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% จากจีน
การประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดที่เพิ่งฟื้นตัวจากการเสนอชื่อ สก็อตต์ เบสเซนต์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงหลังบวก 3 วันติดต่อกัน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและลดแนวโน้มที่จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงนั้นได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หุ้นที่เกี่ยวกับจีนได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง 1.6% เนื่องจากคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีของทรัมป์มากที่สุด โดยหุ้นสเตลแลนติส (Stellantis) และโฟลคสวาเกน (Volkswagen) ร่วงลง 4.8% และ 2.4% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย 1% และ 1.9% ตามลำดับ โดยถูกกดดันจากราคาโลหะที่ปรับตัวลง
ตลาดหุ้นยุโรปชะลอตัวในช่วงท้ายของปี ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านภาษีการค้า, การใช้จ่ายที่ลดลงของจีน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเพียง 6% ในปีนี้ ล้าหลังอย่างมากเมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 25%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป