ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (22 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และหลายประเทศในยุโรปกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 485.46 จุด ลดลง 0.62 จุด หรือ -0.13%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,105.00 จุด ลดลง 7.29 จุด หรือ -0.10%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,115.69 จุด ลดลง 44.28 จุด หรือ -0.27% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,255.46 จุด เพิ่มขึ้น 31.89 จุด หรือ +0.44%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีเปิดเผยว่า จำเป็นต้องดำเนินมาตรการจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ออสเตรียและเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งแล้ว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของธนาคารกลางเยอรมนีหรือบุนเดสแบงก์ที่เปิดเผยในวันจันทร์ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มชะลอตัวลงในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เนื่องจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม
คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซน ลดลงสู่ระดับ -6.8 ในเดือนพ.ย. จาก -4.8 ในเดือนต.ค. และลดลงต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ -5.5
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ย.แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่ร่วงแตะ -8.1 ในเดือนเม.ย.
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 1.3% จากความวิตกเกี่ยวกับการกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดในบางประเทศ
แต่หุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังหุ้นเทเลคอม อิตาเลีย พุ่งขึ้นมากกว่า 30% ขานรับข้อเสนอจากกองทุนเคเคอาร์ของสหรัฐที่จะซื้อหุ้นมูลค่า 1.08 หมื่นล้านยูโร (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป