ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลงจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางรายใหญ่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นโวดาโฟนถ่วงหุ้นกลุ่มเทเลคอมลงด้วย
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 460.70 จุด ลดลง 0.10 จุด หรือ -0.02%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,222.15 จุด เพิ่มขึ้น 19.36 จุด หรือ +0.27%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,989.96 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.18% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,599.74 จุด ลดลง 24.60 จุด หรือ -0.32%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวลง 0.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ยูนิลีเวอร์ และเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ เผชิญแรงกดดันหลังเงินปอนด์ของอังกฤษทะยานขึ้นเกือบ 0.9% จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้
ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
ขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 74.7% ที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่จะปรับขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่มีโอกาส 96.3% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า
หุ้นกลุ่มเทเลคอมร่วงลง 1.1% นำโดยหุ้นโวดาโฟนที่ร่วงลง 5.5% ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า โวดาโฟนและฮัทชิสันกำลังทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายที่จะควบรวมธุรกิจในอังกฤษ และหุ้นโวดาโฟนยังร่วงลงเนื่องจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นจะไม่ได้รับเงินปันผลที่จะจ่ายงวดล่าสุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป