ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (6 ม.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 488.16 จุด ลดลง 6.19 จุด หรือ -1.25%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,249.66 จุด ลดลง 126.71 จุด หรือ -1.72%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,052.03 จุด ลดลง 219.72 จุด หรือ -1.35% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,450.37 จุด ลดลง 66.50 จุด หรือ -0.88%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยได้ลบล้างแรงบวกทั้งหมดที่ทำไว้ในช่วง 3 วันแรกของปีนี้ ซึ่งหนุนให้ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายงานประชุมเฟดที่เปิดเผยในวันพุธ (5 ม.ค.) บ่งชี้ว่า ภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัว และเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดลง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 2.4% เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ผลประกอบการในอนาคตจะมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง
ข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อต่อปีของเยอรมนีชะลอลงในเดือนธ.ค. แต่ยังคงอยู่สูงกว่าช่วงเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป
ความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน หลังโฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสบ่งชี้ว่า อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วเหนือเสียง (supersonic) นั้น จะยังคงดำเนินต่อไปในไม่กี่วันข้างหน้านี้ และไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดหุ้นยุโรป โดยบวก 1.1% และ 0.2% ตามลำดับ หลังได้แรงหนุนจากผลกำไรที่ดีขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดเงินยูโรโซนบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนต.ค. และจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกที่ยังช่วยหนุนตลาดได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นได้หนุนให้ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ม.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป