ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อาจใช้ท่าทีที่อ่อนลงเกี่ยวกับมาตรการภาษี ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในการเริ่มเก็บภาษีในวันที่ 2 เม.ย.
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 552.59 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด หรือ +0.67%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,108.59 จุด เพิ่มขึ้น 86.26 จุด หรือ +1.08%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,109.79 จุด เพิ่มขึ้น 257.13 จุด หรือ +1.13% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,663.80 จุด เพิ่มขึ้น 25.79 จุด หรือ +0.30%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วัน โดยบรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ภาษีที่เขาขู่จะเรียกเก็บทั้งหมดอาจไม่ถูกบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. และบางประเทศอาจได้รับการยกเว้น ข่าวนี้ทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณของท่าทีที่อ่อนลง ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นในตลาดทั่วโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนอยู่ในโหมดรอดูสถานการณ์ในสัปดาห์นี้
ดัชนีความผันผวนของตลาดหุ้นยุโรปหรือที่เรียกว่า “มาตรวัดความกลัว” (euro STOXX equity volatility index) ปิดที่ 17.59 จุด โดยลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์
อีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดยุโรปคือข้อมูลจากเยอรมนี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หลังจากที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปหดตัวมานาน 2 ปี
ข้อมูลนี้ออกมาหลังจากที่รัฐบาลเยอรมนีอนุมัติแผนการใช้จ่ายขนาดใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาและเพิ่มงบประมาณทางทหาร โดยแผนการลงทุนหลายแสนล้านยูโรในด้านกลาโหมและโครงสร้างพื้นฐานนี้ช่วยให้เศรษฐกิจยูโรโซนได้รับการปรับประมาณการดีขึ้น และส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่ต้นปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ ประกาศว่า ยูเครนและรัสเซียได้ตกลงแยกกันเพื่อรับประกันการเดินเรือที่ปลอดภัยในทะเลดำ และจะปฏิบัติตามข้อตกลงห้ามโจมตีโครงสร้างพลังงานของกันและกัน
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปนำตลาดบวก โดยพุ่งขึ้น 2.1% ปิดใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนีหุ้นกลุ่มประกันบวก 1.3%
ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกของยุโรปลดลง 0.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป