ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (7 ก.พ.) หลังปิดลบ 5 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายและความตึงเครียดทางการเมืองที่เกี่ยวกับรัสเซียและยูเครน
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.28 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด หรือ +0.68%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,009.25 จุด เพิ่มขึ้น 57.87 จุด หรือ +0.83%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,206.64 จุด เพิ่มขึ้น 107.08 จุด หรือ +0.71% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,573.47 จุด เพิ่มขึ้น 57.07 จุด หรือ +0.76%
ดัชนี STOXX 600 ฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงมากกว่า 5% แล้วในปีนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อทำให้ธนาคารรายใหญ่ต่าง ๆ ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยบวก 1.7%
ตลาดได้แรงหนุน หลังนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความเห็นในวันจันทร์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจลดลงก่อนจะกลายเป็นการคาดการณ์ในตลาด ซึ่งจะลดความจำเป็นในการปรับนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ ความเห็นของนางลาการ์ดตรงข้ามกับจุดยืนในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลว่ารัสเซียอาจจะบุกโจมตียูเครนภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะที่สหรัฐและยุโรปยังคงพยายามที่จะเสนอวิธีทางการทูตให้กับรัสเซียเพื่อแก้ไขวิกฤตดังกล่าว
ส่วนการเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นออรูบิส เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 3.2% หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาสพุ่งขึ้น 85% และคาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเพิ่มขึ้นตามราคาโลหะ และผลผลิตที่แข็งแกร่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป