ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (31 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 468.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด หรือ +0.72%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,999.20 จุด เพิ่มขึ้น 33.32 จุด หรือ +0.48%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,471.20 จุด เพิ่มขึ้น 152.25 จุด หรือ +0.99% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.37 จุด ลดลง 1.70 จุด หรือ -0.02%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.5% ในวันจันทร์ แต่ลดลง 12% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ขณะที่นักลงทุนคาดว่าผลประกอบการในอนาคตจะได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานของยุโรปปรับตัวขึ้น 8.6% ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารบวกขึ้น 7.4%
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงิน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก
ตลาดคาดว่า ECB จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แต่ BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
หุ้นโวดาโฟนพุ่งขึ้น 1.9% หลังจากเปิดเผยว่าจะร่วมงานกับอินเทลและผู้จำหน่ายซิลิคอนรายอื่นๆ ในการออกแบบสถาปัตยกรรมชิปของตัวเองเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพในเทคโนโลยีเครือข่ายโอเพ่นแรน (OpenRAN)
หุ้นเคพีเอ็น ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน และจะจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป