ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ธ.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจจะรุนแรงน้อยกว่าที่วิตกกันนั้น ได้หนุนความต้องการเสี่ยงซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนและพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.65 จุด หรือ +0.97%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,106.15 จุด เพิ่มขึ้น 54.48 จุด หรือ +0.77%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,756.31 จุด เพิ่มขึ้น 162.84 จุด หรือ +1.04% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,373.34 จุด เพิ่มขึ้น 31.68 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นยุโรปบวกขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทางปรับตัวขึ้น
ตลาดได้แรงหนุนหลังแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยข้อมูลการวิจัยในห้องแล็บของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดบ่งชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโอมิครอน ขณะที่ข้อมูลของสหราชอาณาจักรบ่งชี้ว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนมีสัดส่วนในการเข้าโรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ติดเชื้อไวรัสเดลตา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระและอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนรายงานหลักฐานว่า ไวรัสโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตา
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความต้องการเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้ลดความต้องการพันธบัตรซึ่งเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป