ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) เนื่องจากสัญญาณกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และบดบังความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากอินวิเดียซึ่งเป็นบริษัทชิปปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐ
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 521.56 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.07%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,102.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด หรือ +0.13%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,691.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด หรือ +0.06% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,339.23 จุด ลดลง 31.10 จุด หรือ -0.37%
- ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงจากระดับสูงของวันมาปิดตลาดที่ระดับแทบไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 1.1% โดยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ เอเอสเอ็มแอล, อินฟินิออน, เอเอสเอ็ม ปรับตัวขึ้น 1-2.6% หลังอินวิเดียคาดการณ์รายได้รายไตรมาสสูงกว่าคาด, ประกาศแตกหุ้น และปรับเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาส 150% หลังการแตกหุ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปที่ปรับตัวขึ้น หลังจากผลสำรวจขั้นต้นบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนขยายตัวในอัตราเร็วที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ การขยายตัวของค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสแรก จะทำให้มีความระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์
บรรดาเทรดเดอร์คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.58% ภายในสิ้นปีนี้ ลดลงจาก 0.67% ที่คาดไว้ในวันพุธ
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงมากที่สุด โดยหุ้นเนชันแนล กริดของอังกฤษร่วงลงเกือบ 11% หลังประกาศแผนที่จะเพิ่มทุนประมาณ 7 พันล้านปอนด์ (8.9 พันล้านดอลลาร์) ผ่านทางการออกหุ้นใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป