ตลาดหุ้นยุโรปปิดเพิ่มขึ้นในวันพุธ (8 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเฮลท์แคร์และผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเพื่อหาสัญญาณแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด หรือ +0.28%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,034.16 จุด เพิ่มขึ้น 47.93 จุด หรือ +0.69%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,229.60 จุด เพิ่มขึ้น 76.96 จุด หรือ +0.51% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,401.72 จุด ลดลง 8.32 จุด หรือ -0.11%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกของยูโรโซนลดลงตามคาดในเดือนก.ย. และผลสำรวจบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยูโรโซนปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าสู่ระดับ 4%
นางมิเชลล์ โบว์แมน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเวสทาสซึ่งเป็นบริษัทผลิตกังหันลมของเดนมาร์กพุ่ง 9.8% หลังเปิดเผยรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเกินคาด
หุ้นคอนทิเนนทัลซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ พุ่งขึ้น 4.1% หลังคาดการณ์ธุรกิจรถยนต์แข็งแกร่งในไตรมาส 4 และการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในปีนี้สูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มค้าปลีกนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยทั้งสองกลุ่มต่างเพิ่มขึ้น 1.1%
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของอังกฤษ พุ่งขึ้น 8.4% หลังเปิดเผยผลกำไรช่วงครึ่งปีแรก พุ่งขึ้น 75% ซึ่งมากเกินคาด
หุ้นคอมเมอร์ซแบงก์ของเยอรมนี บวก 0.7% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3 เท่าในไตรมาส 3 ซึ่งดีกว่าคาดการณ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป