ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะยกระดับการตรวจสอบธุรกรรมช็อตเซลด้วยการเข้มงวดการส่งหลักฐานของโบรกเกอร์เพื่อแสดงการมีหุ้นในครอบครองก่อนส่งคำสั่งขายภายใน 15 วัน หากไม่สามารถส่งได้ทันตามกำหนดจะสันนิษฐานว่าเป็นการทำช็อตเซลโดยไม่มีหุ้นในมือ (Naked Short Sell) ซึ่ง ตลท.จะลงโทษทางวินัยกับโบรกเกอร์
นอกจากนั้น ตลท.จะตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมา ซึ่งจะประกอบด้วยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนความเท่าเทียมเป็นธรรมของผู้ที่ใช้โปรแกรมเทรดและไม่ได้ใช้โปรแกรมเทรด ให้เป็นไปตามหลักสากล
ส่วนสิ่งที่ ตลท.ได้ดำเนินการไปแล้ว คือการส่งหนังสือเวียนกำชับไปยังโบรกเกอร์และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความร่วมมือในการตรวจสอบธุรกรรมช็อตเซล พร้อมประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบบัญชีซื้อขายร่วมที่ทำรายการช็อตเซลเพื่อหาผู้ที่มีอำนาจสั่งการตัวจริง
สำหรับข้อแนะนำของ ก.ล.ต.ให้คณะกรรรมการ ตลท.พิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาทำชอร์ตเซลด้วยราคาสูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย (Uptick Rule) เพื่อไม่ให้เกิดการดัมพ์ราคานั้น ตลท.ได้หารือกันแล้วเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำมาใช้ เพราะตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์โลกไม่ได้เกิดจากความผิดปกติ แต่ไม่ได้ปิดโอกาสการนำมาใช้หากพบสถานการณ์ที่ไม่ปกติที่มีผลกระทบต่อการซื้อขายก็จะดำเนินการทันที
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 66)