นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยผลปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงวันที่ 1-30 มิ.ย.67 มีจำนวน 2,349 ราย ลดลง 5.86% จากช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.67) ที่มีการจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน, การจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์มีจำนวน 1,082 ราย เพิ่มขึ้น 1.69% จากช่วงไตรมาสแรกที่มีการจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน, การจับกุมคดีซิมม้า/บัญชีม้ามีจำนวน 160 ราย ลดลง 33.33% จากช่วงไตรมาสแรกที่มีการจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน
นอกจากนี้ ตำรวจยังร่วมกับกรมศุลกากรปฏิบัติการสกัดกั้น STARLINK, ซิมการ์ด และจุดตั้ง Simbox พบการนำเข้าเครื่อง STARLINK จำนวน 21 เครื่องและซิมการ์ดจำนวนประมาณ 15,675 ชิ้น ซึ่งมีปลายทางพัสดุอยู่ในจังหวัดพื้นที่แนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มีการขยายผลตรวจค้นพื้นที่ 14 จุดทั่วประเทศ พบเครื่อง STARLINK จำนวน 4 เครื่อง, อุปกรณ์ SIMBOX จำนวน 96 เครื่อง และซิมการ์ดทั้งของไทยและต่างประเทศกว่า 33,000 ชิ้น
ขณะที่ DSI มีการจับกุมที่สำคัญ ได้แก่ จับกุมผู้จัดหาบัญชีม้าแล้วนำไปขายต่อให้กับตัวแทนเว็บไซต์พนันออนไลน์ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมตามหมายจับในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ฯลฯ
ส่วนการปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันจำนวน 14,363 รายการ เพิ่มขึ้น 5.2 เท่าจากเดือน มิ.ย.66 ที่มีจำนวน 2,763 รายการ, ปิดเว็บพนันจำนวน 5,771 รายการ เพิ่มขึ้น 20.9 เท่า จากเดือน มิ.ย.66 ที่มีจำนวน 276 รายการ
ขณะที่การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ได้ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 900,000 บัญชี แบ่งเป็น ปปง.ปิด 416,348 บัญชี ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี และ AOC ระงับ 209,823 บัญชี, การยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ยกระดับการจัดการบัญชีเป็นบุคคล ทุกธนาคารจัดการบัญชีม้าตามระดับความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกันและมาตรการที่ให้สถาบันการเงินดำเนินการ โดยมีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถล็อคเงินในบัญชี ไม่ให้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และปลดล็อคได้ยากขึ้น และ/หรือ ปรับลดค่าวงเงินในการสแกนใบหน้าการทำธุรกรรมใน Mobile Banking รวมทั้งการเสนอบริการเพิ่มเติม
อาทิ การถอนเงินที่อาศัยบุคคลอื่นช่วยอนุมัติ (double authorization) การโอนเงินเฉพาะรายชื่อที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และกวาดล้างบัญชีม้าจากการใช้รายชื่อเจ้าของบัญชีม้า และรายชื่อผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำการปิดบัญชีธนาคารทุกธนาคารจากชื่อบุคคลดังกล่าว โดยมีการปิดบัญชีม้าไปแล้วจำนวน 72,296 บัญชี
ส่วนการแก้ไขปัญหาซิมม้าและซิมที่ผูกกับ Mobile Banking ได้ระงับหมายเลขโทรออกเกิน 100 ครั้ง/วันแล้ว 50,736 หมายเลข มีผู้มายืนยันตัวตน 418 เลขหมาย ไม่มายืนยันตัวตน 50,318 เลขหมาย, การกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน และผลการดำเนินงาน มีดังนี้ (1) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5.0 ล้านเลขหมาย ซึ่งกำหนดให้ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 ก.พ.67 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 3.9 ล้านเลขหมาย และระงับการใช้งานซิม 1.1 ล้านเลขหมาย (2) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมายต่อค่ายมือถือ จะต้องยืนยันตัวตนภายในวันที่ 13 ก.ค.67 ซึ่งมีเลขหมายที่เข้าข่าย 4 ล้านเลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 1.6 ล้านเลขหมาย และยังไม่มายืนยันตัวตน 2.4 ล้านเลขหมาย
ส่วนการดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงาน กสทช. ตรวจเข้มพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน ลงพื้นที่ จ.ตาก รอบสอง เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.67 เพื่อติดตามการลักลอบลากสายสัญญาณโทรคมนาคมข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้สามารถควบคุมการหันเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้แล้วทั้ง 7 พื้นที่ คือ (1) อ.แม่สอด จ.ตาก (2) อ.แม่สาย จ.เชียงราย (3) อ.เชียงของ จ.เชียงราย (4) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (5) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (6) อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ (7) อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งปัจจุบันทุกพื้นที่ที่มีการหันเสาออกนอกประเทศไทยได้มีการระงับสัญญาณรวมแล้ว 366 สถานีฐาน ซึ่งมีทั้งการดำเนินการระงับสัญญาณ ปรับทิศทางสายอากาศ ลดกำลังส่ง และรื้อสายอากาศ และได้กำหนดพื้นที่เพิ่มเติมตามมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยงในอีก 4 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
การบูรณาการข้อมูล โดยศูนย์ AOC 1441 โดยประชุมหารือแนวทางการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลของศูนย์ AOC กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงขั้นตอนแนวปฏิบัติภาพรวมของการเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อบูรณาการข้อมูลศูนย์ AOC 1441 ให้กับหน่วยงานทั้ง 5 หน่วยที่ได้ลงนาม MOU โดย สอท. และสมาคมธนาคารไทย ส่งข้อมูลการแจ้งความในระบบ Thaipoliceonline ระบบบัญชีธนาคาร (Banking) และข้อมูลระบบ CFR ย้อนหลัง (Back Day) ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.66 ถึงวันที่ 30 พ.ค.67 เพื่อนำมาใช้ในการประมวลผลข้อมูลของศูนย์ AOC 1441 และหาแนวทางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไป
การแก้กฎหมายเร่งด่วน การประชาสัมพันธ์เชิงรุก และอื่นๆ โดยแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์แบบใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน ซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือน ก.ค.นี้ กฎหมายฉบับนี้ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ส่งสินค้าและผู้ประกอบธุรกิจ ชื่อสกุลผู้รับเงินพร้อมหมายเลขติดตามพัสดุ กำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน ให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ โดยหากพบว่ามีปัญหา ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้ โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
การประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยจัดทำโครงการดิจิทัลวัคซีน เร่งสร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชนการตระหนักรู้เท่าทันอาชญากรรมออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ได้ทำการเตือนภัยออนไลน์ ประชาสัมพันธ์กันไปมาก แต่โดยรวมยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งควรปรับการรณรงค์ระดับชาติ ควรทำต่อเนื่อง ทิศทางเดียวกันและควรมีข้อความการเตือนไม่หลากหลายเกินไปขณะเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันแต่ละหน่วยงานมีกลุ่มเป้าหมายทั้งที่ซ้ำกัน และแตกต่างกัน ความร่วมมือจัดทำ mapping กลุ่มประชากรคนไทย จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมดีขึ้น ทั้งนี้การแจ้งเตือน ให้ความรู้ภัยออนไลน์ต้องมีความรวดเร็ว ทันสถานการณ์ เนื่องจากการหลอกลวงออนไลน์สามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว และมีรูปแบบการหลอกลวงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการขอความร่วมมือกับเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด การร่วมกันจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการลดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ นอกเหนือจากการป้องกันปราบปราม
“ภาพรวมของการดำเนินงานอย่างบูรณาการ เร่งรัดจับกุมคนร้าย กวาดล้างบัญชีม้าและซิมม้า เร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ มีผลงานชัดเจน เป็นตัวเลขที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากในเดือนพฤษภาคม” นายประเสริฐ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 67)
Tags: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ประเสริฐ จันทรรวงทอง