ยอดขายน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลของโรงกลั่นในอินเดียเดือนพ.ค.ลดลงประมาณ 1 ใน 5 จากเดือนเม.ย. เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อชะลอการแพร่ระบาดระลอก 2 ของโรคโควิด-19 นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางด้านอุตสาหกรรมและการบริโภค
ยอดขายน้ำมันเบนซินรายวันในเดือนพ.ค.ร่วงลงประมาณ 19% จากเดือนเม.ย. ขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางด้านอุตสาหกรรม และคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 5 ของความต้องการเชื้อเพลิงในอินเดียนั้น ร่วงลง 19.9%
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่จัดทำโดยนิกเกอิ/ไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า การเติบโตของกิจกรรมในโรงงานของอินเดียชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนพ.ค. หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้คำสั่งซื้อใหม่และการผลิตหยุดชะงัก
เจ้าหน้าที่ของโรงกลั่นแห่งหนึ่งระบุว่า ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบต่อความต้องการเชื้อเพลิงในเดือนพ.ค. และได้แสดงความหวังว่า การใช้เชื้อเพลิงจะเริ่มเพิ่มอีกครั้งเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลง และอินเดียค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่างๆ
กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 196,427 รายซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์
ทั้งนี้ ความต้องการเชื้อเพลิงของอินเดียได้ฟื้นตัวขึ้นใกล้เคียงระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนมี.ค. แต่ลดลงนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่อีกครั้ง ทำให้โรงกลั่นน้ำมันในอินเดียต้องปรับลดการกลั่นและการนำเข้าน้ำมันดิบ
บริษัทที่ปรึกษาไรสแตด เอ็นเนอร์จีคาดการณ์ว่า การกลั่นน้ำมันในอินเดียร่วงสู่ระดับ 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. โดยลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึง 600,000 บาร์เรลต่อวัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: ดีเซล, น้ำมัน, ราคาขายปลีก, ล็อกดาวน์, อินเดีย, อุตสาหกรรม, เชื้อเพลิง, เบนซิน, โรงกลั่นน้ำมัน