วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลนัดแรก ชื่นมื่น นายกฯ ยืนยันแก้รัฐธรรมนูญ ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และมาตรา 112 ชี้นิรโทษกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พร้อมขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลเดินหน้าหลายเรื่อง ยืนกรานไม่กังวลข้อร้องเรียน กกต. “ทักษิณ” ครอบงำพรรคเพื่อไทย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ว่า เป็นบรรยากาศการพูดคุย แบบสบาย ๆ และได้คุยกันว่าการจัดดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาลในแต่ละครั้งจะไม่ทิ้งระยะเวลาห่างเกินไป ซึ่งครั้งหน้าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเจ้าภาพ
สำหรับการหารือกันวันนี้ได้ขอความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการทำงาน เนื่องจากตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่นาน จึงอยากให้มีการพูดคุยกัน เพราะการสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะสื่อสารกันเองในคณะรัฐมนตรี ในพรรคร่วม หรือสื่อสารกับประชาชน
“เพราะฉะนั้นขอความร่วมมือตรงนี้ และขอให้การสื่อสารลดกำแพงลง ให้มีความง่ายมากขึ้น ซึ่งได้มีการขอความร่วมมือเรื่องนี้เป็นหลัก นอกนั้นเป็นเรื่องคลายเครียด เรื่องตลกกัน ถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมาก ๆได้คุยกันหลายเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลจะทำร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า หลังประชุมเอเปค จะเชิญแต่ละกระทรวงเข้ามาคุยเพื่อต้องการทราบถึงปัญหาและแนวทางที่ทำร่วมกันต่อ ซึ่งเป็นลักษณะการนัดแยกมาคุยเป็นรายกระทรวง และหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค เพื่อจะได้ทราบว่าใครอยากทำอะไรบ้าง
สำหรับประเด็นเรื่องนิรโทษกรรมนั้น ยอมรับว่ามีทั้งเรื่องเห็นตรงกัน และเห็นไม่ตรงกัน แต่ทุกเรื่องก็สามารถตกลงพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ จึงขอให้เป็นเรื่องในสภาฯ เรื่องนิรโทษกรรมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ Sensitive ซึ่งยังมีเรื่องที่เห็นตรงกัน และไม่ตรงกัน จึงไม่ขอชี้แจงรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ยืนยันว่าไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน
ขณะที่ความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งในรายละเอียดขอให้เป็นเรื่องของสภาฯ เช่นกัน
“ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่วันนี้มีการคุยกันว่า ถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเว้นหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดกันมาตลอด และเป็นการตกลงทำให้เราสามารถร่วมรัฐบาลกันได้ เป็นเรื่องที่เราเห็นพ้องต้องกัน รวมถึงจะไม่มีการแตะมาตรา 112 ซึ่งมีการพูดเรื่องนี้ในทุกเวที” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่มีผู้ไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยกล่าวหาว่า ถูกครอบงำจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า ไม่มีการกระทำใดที่เข้ากับข้อกล่าวดังกล่าว จึงไม่มีใครกังวลในเรื่องนี้ แต่ถ้าเรื่องกฏหมายก็พร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วง
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะต้องตีห่างนายทักษิณหรือไม่ เพื่อป้องกันข้อครหานี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าสมมติเราไปทานข้าวร่วมกันเป็นการครอบงำเลยหรือไม่ เช่น หากตนไปทานข้าวอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นการครอบงำหรือไม่
“ความสัมพันธ์ที่ดี มันก็คือความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งไม่ใช่การครอบงำ เชื่อว่าหลาย ๆ คนในที่นี้ รักเคารพนายทักษิณ โดยที่บางทีอาจจะไม่ใช่การคุยการเมืองเลยด้วยซ้ำ และอาจจะเป็นการคุยการเมืองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สมัยนั้นใครเป็นรัฐมนตรีสมัยแรกอะไรอย่างนี้ มันเป็นของคนที่ความสัมพันธ์ที่ดีกัน” น.ส.แพทองธาร ระบุ
เมื่อถามย้ำถึงความมั่นใจของนายกรัฐมนตรี ต่อทีมกฏหมาย และข้อกล่าวหาครอบงำพรรค ซึ่งจะไม่ทำให้รัฐบาลต้องสะดุดลงเหมือนสมัยของนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ย้อนถามกลับว่า “นายกฯ เศรษฐาโดนเรื่องครอบงำหรือคะ” และกล่าวต่อว่า ทุกคนมีความคิดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคอื่นๆ ก็ตาม ทุกพรรคมีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ต้องได้รับคำปรึกษามาก่อน ถ้าไม่มีความเห็นด้วย ก็ครอบงำไม่ได้อยู่ดี ไม่มีใครครอบงำได้ ในพรรคต้องคุยกันเอง ตกลงกันเองในทุกเรื่อง
“เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดว่า การติดต่อกับนายทักษิณ ซึ่งวันนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว การครอบงำก็ต้องครอบงำมาทุกอย่างแล้ว ถ้าคุยกับนายทักษิณเป็นการครอบงำ เท่ากับอันนั้นมันก็ไม่ได้แล้ว” น.ส.แพทองธาร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)
Tags: การเมือง, พรรคการเมือง, พรรคร่วมรัฐบาล, พรรคเพื่อไทย, รัฐบาล, แพทองธาร ชินวัตร