ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ (5 ธ.ค.) ภายหลังดัชนีปิดทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลการจ้างงานที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 18.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 31 จุด หรือ -0.07% สู่ระดับ 45,075 จุด
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวเมื่อวันพุธ (4 ธ.ค.) ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าที่คาด พร้อมกับส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต ด้านแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ก็พูดในทำนองเดียวกันว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.
ตลาดรอดูตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ซึ่งจะประกาศก่อนตลาดเปิดวันนี้ ก่อนที่จะถึงไฮไลต์สำคัญของสัปดาห์อย่างตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (6 ธ.ค.)
นักเศรษฐศาสตร์จากบีเอ็นพี พารีบาส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “ก่อนถึงการประชุมเฟดเดือนธ.ค.ที่อาจมีการปรับดอกเบี้ย เราคาดว่าปัจจัยพิเศษหลายอย่าง ทั้งสภาพอากาศ การยุติการนัดหยุดงานที่โบอิ้ง และผลจากการเลือกตั้ง จะทำให้การอ่านภาพตลาดแรงงานซับซ้อนขึ้น”
“เราคาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จะส่งสัญญาณก้ำกึ่ง นั่นคือการจ้างงานยังแข็งแกร่งแต่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ค่าจ้างปรับตัวขึ้นปานกลาง ซึ่งจะยังคงสนับสนุนมุมมองหลักของเราที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.”
หุ้นกลุ่มคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนพุ่งขึ้นในช่วงก่อนตลาดเปิด หลังราคาบิตคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ธ.ค. 67)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก