ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเน็ตฟลิกซ์
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,258.61 จุด ลดลง 36.15 จุด หรือ -0.10%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,486.46 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด หรือ +0.34% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,021.81 จุด เพิ่มขึ้น 124.47 จุด หรือ +0.84%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.2% ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ขยายตัวเพียง 3.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงาน, ภาวะติดขัดด้านอุปทาน, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการที่รัฐบาลควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) พุ่งขึ้น 1.2% ทั้งนี้ หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นในชื่อดัง “วิคตอเรีย ซีเครท” พุ่งขึ้น 2.11% หุ้นราล์ฟ ลอเรน ปรับตัวขึ้น 0.41% หุ้นไนกี้ ดีดขึ้น 0.9%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารปรับตัวขึ้น 0.85% โดยหุ้นแอปเปิล บวก 1.18% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 1.11% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.54% หุ้นอัลฟาเบท บวก 1% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.01% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.65%
หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 3.26% ขานรับข่าวเฟซบุ๊กประกาศแผนการจ้างงานในยุโรปเพิ่ม 10,000 อัตรา เพื่อสร้าง “Metaverse” หรือโลกดิจิทัลเสมือน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในรูปแบบ 3 มิติ
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลง 3.01% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลยส์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ลงสู่ระดับ “Equal Weight” จากระดับ “Overweight”
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทเน็ตฟลิกซ์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และเน็ตฟลิกซ์
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า ขณะนี้ บริษัทจำนวน 41 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว โดย 80% จากจำนวนดังกล่าว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 80 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐปรับตัวลง 1.3% ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ต.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก