ข่าว
ดาวโจนส์ปิดลบ 225.09 จุด กังวลเงินเฟ้อสูงขวางเฟดหั่นดอกเบี้ย
ก.พ.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (12 ก.พ.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
- ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,368.56 จุด ลดลง 225.09 จุด หรือ -0.50%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,051.97 จุด ลดลง 16.53 จุด หรือ -0.27% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,649.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.09 จุด หรือ +0.03%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% และเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.9% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1% และเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.2% ในเดือนธ.ค.
ดัชนี CPI ที่สูงเกินคาดถือเป็นการตอกย้ำการส่งสัญญาณล่าสุดของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่กล่าวว่า เฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ล่าสุดเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งลดลงจากระดับ 80% ที่คาดการณ์ไว้ในวันอังคาร
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากดัชนี CPI เดือนม.ค.ออกมาสูงเกินคาด
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.7% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 0.9% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 0.23%
หุ้นซีวีเอส เฮลธ์ (CVS Health) ซึ่งเป็นบริษัทเฮลธ์แคร์ และหุ้นกิลเลียด ไซแอนเซส (Gilead Sciences) ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 15% และ 7.5% ตามลำดับ หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
นักลงทุนจับตามาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยล่าสุดมีรายงานว่าทีมที่ปรึกษาด้านการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเร่งสรุปแผนการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำประกาศให้ปรับขึ้นอัตราภาษีอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ เป็น 25% จากอัตราเดิมที่ระดับ 10% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มี.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 68)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก