ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครนทุกขณะ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,312.03 จุด ลดลง 622.24 จุด หรือ -1.78%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,380.26 จุด ลดลง 94.75 จุด หรือ -2.12% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,716.72 จุด ลดลง 407.38 จุด หรือ -2.88%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน ซึ่งจะส่งผลให้ชาติตะวันตกซึ่งรวมถึงสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
นายไบรอัน โอทูล อดีตที่ปรึกษาระดับอาวุโสของผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะตอบโต้รัสเซียในกรณียกพลบุกโจมตียูเครนก็คือ การออกมาตรการคว่ำบาตรภาคธนาคารของรัสเซียไม่ให้เข้าถึงสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ธนาคารรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมด้วยเงินสกุลดอลลาร์ได้
ภาพถ่ายทางดาวเทียมจากบริษัทแม็กซาร์ เทคโนโลยีของสหรัฐเปิดเผยให้เห็นว่า กองทัพรัสเซียได้เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์บางส่วนออกจากชายแดนยูเครนแล้ว แต่ก็มีการขนส่งอาวุธใหม่เข้ามา โดยหลักฐานดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัสเซียยังคงตรึงกำลังทหารและมียุทโธปกรณ์จำนวนมากตามแนวชายแดนยูเครน แม้กองทัพรัสเซียกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่ามีการถอนกำลังทหารบางส่วนออกไปก็ตาม
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มสื่อสารร่วงลง 3.07% และ 2.96% ตามลำดับ ทั้งนี้ หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ดิ่งลง 4.08% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 3.77% ห้นแอปเปิล ร่วงลง 2.13% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.93% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวลง 2.87% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 2.24%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ดิ่งหลุดจากระดับ 2% เมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.05% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.30% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.40% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 3.35% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทรุดลง 4.94%
อย่างไรก็ดี หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 4.01% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.50 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.5287 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5153 แสนล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของวอลมาร์ทช่วยหนุนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มสินค้าผู้บริโภค โดยหุ้นหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ดีดขึ้น 1.15% หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ พุ่งขึ้น 3.19% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค บวก 0.47%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 248,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 219,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 4.1% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.638 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และสภาพอากาศที่หนาวเย็น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 65)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก