ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีอาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,079.94 จุด ลดลง 240.04 จุด หรือ -0.66%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,646.71 จุด ลดลง 38.54 จุด หรือ -0.82% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,622.71 จุด ลดลง 263.84 จุด หรือ -1.66%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ย.
แนนซี เดวิส นักวิเคราะห์จากบริษัท Quadratic Capital Management กล่าวว่า “การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เดือนต.ค.สะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่เหนือระดับเป้าหมายของเฟด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและภาวะขาดแคลนแรงงาน เราคาดว่าหากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง ก็อาจจะทำให้เฟดปรับลดวงเงิน QE ลงอีก และอาจจะเร่งให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย”
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุดหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.97% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดิ่งลง 5.70% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.59% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 5.02% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 3.63%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.92% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.03% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.63% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดิ่งลง 2.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.53%
อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.94% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวขึ้น 0.78% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.32%
หุ้นเทสลา ปิดพุ่งขึ้น 4.34% โดยราคาหุ้นฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน อันเนื่องมาจากการที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมกันโหวตให้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ขายหุ้น 10% ในเทสลาเพื่อนำเงินไปจ่ายภาษี
หุ้น Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านแอปพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ร่วงลง 6.02% ซึ่งเป็นการดิ่งลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังมีรายงานว่าแฮกเกอร์ได้เจาะเข้าระบบของบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อมูลของลูกค้ากว่า 5 ล้านราย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 จากระดับ 271,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 64)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก