ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งรายงานตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่สูงเกินคาดในเดือนมิ.ย.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,511.99 จุด เพิ่มขึ้น 549.95 จุด หรือ +1.62%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,323.06 จุด เพิ่มขึ้น 64.57 จุด หรือ +1.52%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,498.88 จุด เพิ่มขึ้น 223.89 จุด หรือ +1.57%
นักวิเคราะห์จากบริษัทฮอไรซอน อินเวสต์เมนท์ เซอร์วิสในรัฐอินเดียนาของสหรัฐ กล่าวว่า นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 700 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.2563 อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของภาคธุรกิจ
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 2.74% โดยหุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 4.9% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 5.79% หุ้นฮันนีเวลล์ พุ่งขึ้น 4.08% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือด้านการก่อสร้าง พุ่งขึ้น 2.43% หุ้น 3M บวก 1.68%
หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญได้รับแรงช้อนซื้อหลังราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 8.38% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.58% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.45% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 7.51% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 7.76%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.215% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.32% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.83% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา บวก 2.06% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 1.86%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวขึ้นกว่า 1% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.67% หุ้นเชฟรอน บวก 0.63% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดีดขึ้น 1.43%
หุ้นกลุ่มโรงแรมได้รับแรงช้อนซื้อเช่นกัน โดยหุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งขึ้น 3.19% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ปรับตัวขึ้น 2.94% หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 3.32%
หุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) ดีดตัวขึ้น 1.38% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.33 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.29 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นโมเดอร์นา ปิดตลาดร่วงลง 2% หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงแรก ขานรับข่าวที่ว่าหุ้นโมเดอร์นาจะถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P500 ในวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งถือเป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของโมเดอร์นา ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 1.643 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.590 ล้านยูนิต โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในตลาด แม้ว่าราคาไม้ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่สำคัญในการสร้างบ้าน ยังคงปรับตัวขึ้นก็ตาม
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อินเทล, ฮันนีเวลล์ และฮาเลย์-เดวิดสัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก