ดาวโจนส์ปิดบวก 485.60 จุด รับข่าวทรัมป์เลื่อนเก็บภาษีรถยนต์แคนาดา-เม็กซิโก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเลื่อนเวลาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโก

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,006.59 จุด เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ +1.14%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ +1.12% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ +1.46%

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวได้แถลงข่าวยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อแลกกับการขยายการผลิตในสหรัฐฯ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับแมรี บาร์รา ซีอีโอของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM), จิม ฟาร์เลย์ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และจอห์น เอลแคนน์ ประธานบริษัทสเตลแลนทิส (Stellantis)

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird แสดงความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนรับรู้ได้ว่าทำเนียบขาวกำลังตอบสนองต่อแรงกดดันที่เกิดขึ้นในตลาด และต่างก็คาดหวังว่าทำเนียบขาวจะเร่งปรับนโยบายตามความจำเป็นเพื่อลดความตื่นตระหนกในตลาด

หุ้นกลุ่มวัสดุ กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง

หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นขานรับข่าวสหรัฐฯ เลื่อนเวลาการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโก โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นจีเอ็ม พุ่งขึ้น 7.2% หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นสเตลแลนทิส ทะยานขึ้น 9.24%

หุ้นอินเทล (Intel) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ ร่วงลง 2.4% หลังจากปธน.ทรัมป์ได้เสนอให้สมาชิกสภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายการอุดหนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

หุ้นคราวด์สไตรก์ (Crowdstrike) ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ร่วงลง 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/2568 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ อโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 148,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 186,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนก.พ. จากระดับ 52.8 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.5 โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัว

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค.

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 68)

Tags: , , ,