ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,464.64 จุด เพิ่มขึ้น 141.59 จุด หรือ + 0.41%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,200.88 จุด เพิ่มขึ้น 4.89 จุด หรือ +0.12%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,736.28 จุด ลดลง 1.72 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 406,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งแรก และเป็นการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ซึ่งระบุว่า ปธน.ไบเดนจะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ โดยจะประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการที่รัฐบาลจะเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.37% โดยหุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 3.87% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 7.05% หุ้น 3M บวก 0.82% หุ้นฮันนีเวลล์ พุ่งขึ้น 3.12%
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 1.19% นำโดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.56% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.21% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.08% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.61% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 1.06%
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 7.05% หลังจากนักวิเคราะห์ของอาร์บีซี แคปิตอล ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นฟอร์ดขึ้นสู่ระดับ “Outperform” จากระดับ “Sector Perform” หลังจากฟอร์ดประกาศเพิ่มการลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงและเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 1.61% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.24% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.07% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.87% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.74% หุ้น Nvidia ร่วงลง 1.35%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้ โดยเฉพาะดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE พื้นฐานจะพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 1.8% ในเดือนมี.ค. ซึ่งการพุ่งขึ้นของดัชนี PCE พื้นฐานอาจส่งผลให้เฟดปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
* ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.นี้ เนื่องในวัน Memorial Day *
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก