ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) หลังจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,323.05 จุด เพิ่มขึ้น 10.59 จุด หรือ +0.03%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,195.99 จุด เพิ่มขึ้น 7.86 จุด หรือ +0.19%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,738.00 จุด เพิ่มขึ้น 80.82 จุด หรือ +0.59%
บรรยากาศซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกแสดงความเชื่อมั่นว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทะยานขึ้นแบบไม่พึงประสงค์ตามที่นักวิเคราะห์หลายคนได้เคยเตือนไว้ นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังเน้นย้ำถึงการสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟด
ทางด้านนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟดแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะดูดซับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ และกล่าวด้วยว่าเฟดสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ ขณะที่นางแมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโกได้แสดงมุมมองเป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวอย่างน่าพอใจ
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.93% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.22% หุ้นเชฟรอน บวก 0.24% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ เพิ่มขึ้น 0.98% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.55%
หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธุรกิจในภาคส่วนเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.95% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 1.81% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 1.76% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 2.76 หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 3.91%
หุ้นกลุ่มสายการบินได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มขึ้น หลังจากผู้บริหารของสายการบินหลายแห่งในสหรัฐ รวมทั้งหน่วยงานด้านการบินของรัฐบาลสหรัฐ คาดการณ์ว่า การเดินทางทางอากาศภายในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ และจะช่วยให้ผลประกอบการของสายการบินแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1.6% โดยหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.39% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.74% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.2% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 0.33%
หุ้นแอมะซอน ขยับขึ้น 0.19% หลังจากแอมะซอนประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Metro Goldwyn Mayer (MGM) ซึ่งเป็นสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐ ในวงเงิน 8.45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเปิดทางให้แอมะซอนเข้ารุกธุรกิจภาพยนตร์และทีวี และสามารถแข่งขันกับเน็ตฟลิกซ์และดีสนีย์
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 8.5% หลังบริษัทประกาศแผนเพิ่มการลงทุนเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของสหรัฐในวันนี้ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE นับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก