ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนเม.ย.66 อยู่ที่ระดับ 55.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่มี.ค.63
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 49.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 52.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 63.6 ซึ่งดัชนีทุกตัวปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.66
ปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ 1.บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่คึกคักทั่วประเทศ และมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น 2.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้น 3.ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 4.ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับลดลง 5.เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น สะท้อนว่ามีการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศ
ขณะที่ยังมีปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ 1.ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า และปัญหาค่าครองชีพสูง จากปัญหาค่าไฟแพง และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ไม่สอดคล้องกับรายได้ในปัจจุบัน 2. สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจากปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐ และยุโรป กระทบจิตวิทยาเชิงลบ 3.กระทรวงการคลัง ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 66 ลงเหลือ 3.6% จากเดิม 3.8% เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว 4.กังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ และปัญหาฝุ่น PM2.5
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 66)
Tags: ท่องเที่ยว, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ, เลือกตั้ง, เศรษฐกิจไทย