ญี่ปุ่นเล็งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จำนวน 100 ล้านล้านเยน (7.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) และดึงดูดบุคลากรต่างชาติผู้มีความสามารถและพนักงานที่สามารถทำงานจากทางไกล หรือ “ดิจิทัลโนแมด” (digital nomad) โดยแผนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการขับเคลื่อนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันระดับโลก

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เป้าหมายดังกล่าวของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงแผนเชิงปฏิบัติการครั้งใหม่นี้ มีมูลค่าประมาณ 2 เท่าของยอด FDI ในปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 46.6 ล้านล้านเยน ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 80 ล้านล้านเยนในปี 2573

แผนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่การระบาดของโควิด-19 และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทาน และการรับประกันความมั่นคงของชาติ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการวิจัย โดยใช้ประโยชน์จากเงินเยนที่อ่อนค่าซึ่งจช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ภายใต้แผนดังกล่าว ญี่ปุ่นจะใช้เงินทุนและทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนเชิงกลยุทธ์เช่น เซมิคอนดักเตอร์ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการดูแลสุขภาพ และจะแสวงหาแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ผ่านความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างรัฐบาล องค์กรต่าง ๆ และสถาบันการศึกษา

นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งต้องการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ เล็งเห็นว่า ดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือพื้นที่สำคัญสำหรับการลงทุน โดยเขากล่าวว่า “แผนปฏิบัติการคือส่วนหนึ่งที่จะทำให้ญี่ปุ่นเปิดกว้างต่อโลกมากขึ้น”

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังตามหลังประเทศอื่น ๆ ในด้านการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติและบุคลากรผู้มีความสามารถจากต่างชาติ ซึ่งปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง ประกอบกับแนวโน้มประชากรวัยทำงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ญี่ปุ่นค่อย ๆ อ้าแขนรับพนักงานชาวต่างชาติมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: , , ,