สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า ญี่ปุ่นได้แก้ไขบัญชีรายชื่อองค์กรกลุ่มเสี่ยง (End User List) ในวันนี้ (6 ธ.ค.) ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำสำหรับผู้ส่งออกเกี่ยวกับองค์กรต่างชาติที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพัฒนาอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD)
ในการแก้ไขครั้งล่าสุดนี้ รายชื่อองค์กรในบัญชีมีจำนวนทั้งสิ้น 706 แห่ง จาก 15 ประเทศและภูมิภาค โดยเพิ่มขึ้น 36 แห่ง รวมถึงสถาบันวิศวกรรมฟิสิกส์แห่งประเทศจีน (CAEP) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและผลิตอาวุธนิวเคลียร์แห่งสำคัญของจีน
รายงานระบุว่า องค์กรและสถาบันจากอิหร่านมีชื่ออยู่ในบัญชีมากที่สุด รวม 223 แห่ง ตามด้วยเกาหลีเหนือ 153 แห่ง และจีนกับปากีสถานประเทศละ 101 แห่ง โดยมี 5 องค์กรจากอิหร่านและฮ่องกงถูกนำออกจากบัญชีดังกล่าว
การแก้ไขดังกล่าวจะมีผลในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) โดยญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะป้องกันไม่ให้การรั่วไหลของเทคโนโลยีพลเรือน ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทางการทหารได้ โดยผู้ส่งออกจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมในการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังองค์กรที่อยู่ในบัญชีดังกล่าว เว้นแต่จะมีความชัดเจนว่า วัสดุดังกล่าวจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อการพัฒนา WMD เช่น อาวุธนิวเคลียร์ หรือขีปนาวุธ
ขณะเดียวกัน มีองค์กร 7 แห่งจากจีนที่ถูกเพิ่มเข้ามาในบัญชีดังกล่าว รวมถึงมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยหลายแห่ง โดย 90% ของบรรดาองค์กรทั้งหมดของจีนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีปนาวุธ ซึ่งชี้ให้เห็นขอบเขตของนโยบายการผสมผสานระหว่างการทหารและพลเรือนของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 66)