ญี่ปุ่นส่งออกสูงกว่าคาดในเดือนต.ค. แต่แนวโน้มอาจถูกกระทบจากมาตรการภาษีทรัมป์

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (20 พ.ย.) ว่า ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% และฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หดตัว 1.7% ในเดือนก.ย.

ยอดส่งออกเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากความต้องการอุปกรณ์ชิปที่ฟื้นตัวในจีน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งยังคงฟื้นตัวอย่างเปราะบาง

ส่วนยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 4.612 แสนล้านเยน (2.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนต.ค. เทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขาดดุล 3.604 แสนล้านเยน

ข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า ยอดส่งออกไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ลดลง 6.2%

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ข้อมูลในเดือนต.ค.มีความแข็งแกร่ง แต่ยอดส่งออกของญี่ปุ่นอาจจะเผชิญกับแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

ชุนสุเกะ โคบายาชิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท มิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ (Mizuho Securities) คาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทในอัตรา 10% นั้น จะฉุดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นลดลง 0.13% และตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นจะลดลงอีก 0.12% หากการเรียกเก็บภาษีสินค้าที่ผลิตโดยจีนในอัตรา 60% ส่งผลให้จีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 67)

Tags: , , ,