กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ยอดส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นทรุดตัวลง 40.3% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ชะงักงันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลก ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ได้บีบให้กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นต้องปรับลดการผลิต
ข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ยอดส่งออกรถยนต์เดือนก.ย.ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และเป็นการร่วงลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่ปรับตัวลง 49.9% ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด โดยการร่วงลงของยอดส่งออกรถยนต์อาจบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
นอกจากนี้ การร่วงลงของยอดส่งออกรถยนต์ยังส่งผลให้ยอดการส่งออกสินค้าโดยรวมของญี่ปุ่นขยายตัวเพียง 13% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.84 ล้านล้านเยน (6 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 26.2% และเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 37%
ส่วนยอดนำเข้าในเดือนก.ย.ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 38.6% แตะที่ 7.46 ล้านล้านเยน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนก.ย.ที่ระดับ 6.2276 แสนล้านเยน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเกินดุล 6.6736 แสนล้านเยน โดยญี่ปุ่นขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)
Tags: กระทรวงการคลังญี่ปุ่น, ญี่ปุ่น, รถยนต์, ส่งออกรถยนต์, เซมิคอนดัคเตอร์, เศรษฐกิจญี่ปุ่น