นาวิกโยธินสหรัฐฯ นายหนึ่ง วัยประมาณ 20 ปี กำลังเผชิญข้อหาทางอาญา จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งภายในห้องน้ำของฐานทัพสหรัฐฯ ประจำจังหวัดโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวสืบสวนเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.) ว่า ตำรวจจังหวัดโอกินาวะได้ส่งสำนวนคดีนี้ให้อัยการพิจารณาแล้วตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. นอกจากข้อหาข่มขืนแล้ว นาวิกโยธินนายนี้ยังถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้หญิงอีกคน ซึ่งพยายามเข้ามาช่วยเหลือเหยื่อ โดยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นพลเรือนชาวโอกินาวะที่ทำงานอยู่ในฐานทัพดังกล่าว
สำหรับการสอบสวนในเรื่องนี้ ตำรวจญี่ปุ่นได้ดำเนินการภายในพื้นที่ฐานทัพ โดยได้รับความร่วมมือจากฝ่ายสหรัฐฯ และได้ทำการสอบปากคำนาวิกโยธินผู้ต้องสงสัยแล้ว ซึ่งเป็นการให้ปากคำโดยสมัครใจ
ขณะนี้ ผู้ต้องสงสัยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการสหรัฐฯ ตามข้อตกลงว่าด้วยสถานภาพของกองกำลังสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น หรือ SOFA (Status of Forces Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กำกับดูแลการปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่น
เดนนี ทามากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวะ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เราจะเรียกร้องอย่างแข็งขันให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก”
ขณะเดียวกัน จอร์จ กลาส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ออกแถลงการณ์แสดงความ “กังวลอย่างยิ่งต่อรายงานเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับทหารสหรัฐฯ”
“เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความไว้วางใจและมิตรภาพที่สั่งสมมายาวนานหลายทศวรรษกับชาวญี่ปุ่นผู้เป็นเจ้าบ้าน และผมมุ่งมั่นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการกระทำใด ๆ ที่อาจกระทบต่อสายสัมพันธ์นี้” เอกอัครราชทูตกลาสกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)