นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ประเทศญี่ปุ่น ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้กับ “สับปะรดห้วยมุ่น” ซึ่งเป็นผลไม้ชนิดแรกของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสินค้ารายการที่ 3 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ต่อจากกาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง
“การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นการเริ่มต้นเพื่อยกระดับและพัฒนาการประกันคุณภาพให้กับสินค้า ช่วยให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้มั่นใจ เพิ่มการบริโภคสับปะรดห้วยมุ่นมากขึ้น” นายคารม กล่าว
“สับปะรดห้วยมุ่น” มีเอกลักษณเด่นในเรื่องเนื้อหนาและนุ่ม รสชาติหวาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เป็นที่ต้องการสำหรับผู้บริโภคญี่ปุ่น โดยมีเกษตรกรปลูกมากกว่า 850 ราย กำลังการผลิตปีละกว่า 180,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากสับปะรดสดจะได้รับความนิยมแก่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นแล้ว ตลาดนำเข้าสับปะรดของประเทศญี่ปุ่นยังมีความต้องการสับปะรดแปรรูปสูงเช่นเดียวกัน เช่น น้ำสับปะรด สับปะรดกระป๋อง และสับปะรดอบแห้ง โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญในการส่งออกสับปะรดมากเป็นอันดับ 4 รองจากฟิลิปปินส์ คอสตาริกา และอินโดนีเซีย ซึ่งประเทศไทยจะสามารถนำเอาประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ในการลดภาษีนำเข้าเพื่อเพิ่มความได้เปรียบให้กับการส่งออกสับปะรดของประเทศได้
“กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งเดินหน้าสานต่อความร่วมมือเพื่อขยายตลาดการค้า การขึ้นทะเบียนสินค้า GI ในรายการใหม่ ๆ รวมทั้งความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ร่วมระหว่างไทยและญี่ปุ่น เพื่อนำมาเป็นแนวทางการพัฒนาการทำตลาดกลางสินค้าเกษตร ขยายตลาดผักผลไม้ไทยสู่ญี่ปุ่นให้ได้เพิ่มมากขึ้น” นายคารม กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 67)
Tags: กระทรวงเกษตร, ขึ้นทะเบียน GI, คารม พลพรกลาง, ญี่ปุ่น, สับปะรดห้วยมุ่น, สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์, สินค้าเกษตร