นายเชย์น เอลเลียต ซีอีโอของธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป (ANZ) กล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารโลกเมื่อไม่นานมานี้ มีแนวโน้มที่จะลุกลามไปสู่วิกฤตการณ์ด้านการเงิน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าวิกฤตการณ์ล่าสุดนี้จะมีความรุนแรงเหมือนกับที่เกิดขึ้นในปี 2551
หน่วยงานของรัฐบาลทั่วโลกต่างพากันรับมือกับภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในระบบธนาคาร นับตั้งแต่การล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และ ซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ในสหรัฐ รวมทั้งวิกฤตสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับธนาคารเครดิต สวิส จนทำให้รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสนับสนุนธนาคารยูบีเอสให้เข้าซื้อกิจการเครดิต สวิส
“ภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารอาจจะลุกลามกลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านการเงิน ขณะที่หลายคนมองว่ามันอาจจะลุกลามกลายเป็นวิกฤตระดับโลกได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะสันนิษฐานว่าสถานการณ์ในขณะนี้มีความรุนแรงเหมือนเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว”
นายเอลเลียต กล่าว
นอกจากนี้ นายเอลเลียตระบุว่า “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้แตกต่างจากในอดีต โดยวิกฤตการณ์ในปัจจุบันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง และในขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต่างก็พร้อมใจกับใช้มาตรการพยุงภาคธนาคารอย่างรวดเร็ว หลังจากได้ศึกษาบทเรียนจากวิกฤตการณ์ในอดีต”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 66)
Tags: ANZ, ธนาคาร, วิกฤตการเงิน, วิกฤตแบงก์