นายเดวิด โซโลมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐ
“ผมยังไม่เห็นข้อมูลที่จะทำให้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้” นายโซโลมอนกล่าวในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยวิทยาลัยบอสตันเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) พร้อมเสริมว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ช่วยให้เศรษฐกิฐสหรัฐปรับตัวดีขึ้นและสามารถชดเชยผลกระทบจากการที่เฟดดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
อย่างไรก็ตาม นายโซโลมอนกล่าวว่า ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบของราคาที่สูงขึ้น โดยอ้างถึงรายงานรายได้ล่าสุดจากบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป (McDonald’s Corp) และออโต้โซน อิงค์ (AutoZone Inc) เพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้บริโภคเริ่มปรับลดการใช้จ่าย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค. และครั้งที่สองในเดือนพ.ย.
ขณะนี้นักลงทุนในตลาดการเงินให้น้ำหนักเพียง 59% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้อย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 65.7% ในการสำรวจก่อนหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนได้ปรับลดคาดการณ์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากคณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐ และไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
“กรรมการเฟดมองว่า แม้เงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงในปีที่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% โดยเฉพาะข้อมูลที่มีการรายงานครั้งหลังสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารและการบริการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” เฟดระบุในรายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 67)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, อัตราดอกเบี้ย, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ, โกลด์แมนแซคส์