บรรดาผู้บริหารในแวดวงบริการสุขภาพและเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของบรรดานายจ้างในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้ปัญหาขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อยิ่งรุนแรงขึ้น และส่งผลให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของรัฐและหน่วยงานท้องถิ่นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย
รัฐบาลท้องถิ่นต่าง ๆ ของสหรัฐต่างเผชิญกับปัญหาขาดแคลนชุดตรวจ Rapid Test มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐหลายแห่งยังเปิดเผยว่ากำลังประสบปัญหาขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อแบบ Rapid Test ที่สามารถทราบผลตรวจได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และเป็นส่วนสำคัญของแผนติดตามยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19
ขณะเดียวกัน ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดานายจ้างในสหรัฐต่างพากันกักตุนชุดตรวจหาเชื้อ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเมื่อเดือนก.ย.ว่า จะออกข้อกำหนดสำหรับกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน ให้พนักงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกคนต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ
โฆษกหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐมิสซูรีเปิดเผยว่า ตามปกติแล้ว รัฐมิสซูรีจะใช้ชุดตรวจหาเชื้อ Binax Now ของบริษัท Abbott ที่จำหน่ายให้หน่วยงานรัฐในราคาชุดละ 5 ดอลลาร์ แต่เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อดังกล่าว รัฐมิสซูรีจึงต้องพิจารณาจัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อของบริษัทอื่น ๆ ที่มีราคาแพงขึ้น
นายไมเคิล ดีเรเมอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและกู้ภัยฉุกเฉินแห่งรัฐโอกลาโฮมาระบุว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐโอกลาโฮมาเองก็ต้องซื้อชุดตรวจหาเชื้อที่แพงขึ้นเช่นกัน
บริษัทผู้ผลิตชุดตรวจ เช่น Abbott Laboratories, Quidel Corp และ LumiraDX Ltd ต่างก็เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริหารระดับสูงหลายรายของอุตสาหกรรมนี้คาดว่า การเพิ่มกำลังการผลิตนั้นต้องใช้เวลาหลายเดือน จึงทำให้หาซื้อชุดตรวจเชื้อได้ยากขึ้นในช่วงนี้
นายดั๊ก ไบรอันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Quidel กล่าวว่า “ความต้องการจากบรรดานายจ้างขยายตัวขึ้นอย่างมาก เราไม่สามารถผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อที่เราได้รับทั้งหมดได้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 64)
Tags: Rapid Test, ชุดตรวจโควิด, สหรัฐ