บริษัทชิโอโนกิ แอนด์ โค (Shionogi & Co. Ltd) ผู้ผลิตยาจากญี่ปุ่นเผยว่า ยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่นั้นอาจทำยอดขายมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยาของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคของสหรัฐ ขณะที่เป้าหมายในการรักษาโรคโควิด-19 นั้นได้เปลี่ยนไปสู่การใช้ยาชนิดรับประทานในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง
“หากใช้ราคายาของเมิร์คซึ่งอยู่ที่ราว 700 ดอลลาร์ต่อการรักษาผู้ป่วยหนึ่งคนเป็นเกณฑ์อ้างอิงในสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นได้นั้น ผมคิดว่าเราจะสามารถจำหน่ายยาของเราได้ 1-2 พันล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำในช่วงปีแรก ๆ” นายไอซาโอะ เตชิโรกิ ซีอีโอของบริษัทชิโอโนกิให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
นายเตชิโรกิระบุว่า บริษัทคาดว่าจะได้ข้อมูลการทดลองในขั้นสุดท้ายภายในเดือนธ.ค.นี้ ก่อนจะยื่นเพื่อขออนุมัติใช้งานในญี่ปุ่นต่อไป โดยบริษัทจะเริ่มดำเนินการผลิตยาในเดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถผลิตยาได้ล้านโดสภายในต้นปีหน้า ส่วนในปีถัดไปนั้น คาดว่าจะผลิตได้ 6-7 ล้านโดส
ทั้งนี้ ยาของบริษัทชิโอโนกิมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์เอนไซม์โปรติเอส (Protease Inhibitor) และสามารถยับยั้งกระบวนการแบ่งตัวของไวรัสได้หลายส่วนมากกว่าตัวยาของเมิร์ค จึงเป็นไปได้ว่า ยาของทั้งสองบริษัทอาจใช้ร่วมกันได้ โดยขณะนี้ชิโอโนกิและเมอร์คกำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในประเด็นนี้อยู่ ซึ่งการใช้งานยาร่วมกันนั้นจะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบก่อนทำการทดลองต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 64)
Tags: COVID-19, ชิโอโนกิ แอนด์ โค, ญี่ปุ่น, ยารักษาโควิด-19, เมิร์ค